การเลือกใช้ปุ๋ยที่มีคุณภาพสูงถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากสำหรับการเกษตรและการดูแลดิน การใช้ปุ๋ยอย่างถูกวิธีจะช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรมีคุณภาพและปริมาณที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม เกษตรกรจำนวนมากยังไม่ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ และมักไม่เลือกใช้ปุ๋ยเกรดดีตามที่ควรจะเป็น
ฟาร์มส่วนใหญ่จะเลือกใช้ปุ๋ยที่อุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิด เช่น ปุ๋ย NPK เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดิน ทำให้การใช้งานสะดวกและได้รับสารอาหารที่จำเป็นในครั้งเดียว การกระจายปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ในการกระจายปุ๋ยมีผลโดยตรงต่อความพร้อมของสารอาหารในแปลงเพาะปลูก
แม้จะมีปุ๋ยผสมหลายประเภทในตลาด แต่เกษตรกรมักเลือกใช้ปุ๋ยผสมบริสุทธิ์ (CCF) เช่น ปุ๋ยไนโตรเจนคุณภาพสูงและฟอสเฟตชนิดอื่น ๆ โดยอนุภาคปุ๋ยแต่ละชนิดต้องมีคุณสมบัติทางกายภาพที่ใกล้เคียงกัน เพื่อให้สามารถกระจายสารอาหารได้อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะฟอสฟอรัสที่เคลื่อนที่ในดินได้ยาก ทำให้การใช้ปุ๋ยอย่างมีระเบียบมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
ผลกระทบจากการใส่ปุ๋ยที่ไม่สม่ำเสมออาจไม่สามารถสังเกตเห็นได้ในทันที ในหลายกรณี การเจริญเติบโตและผลผลิตของพืชจะได้รับผลกระทบก่อนที่การเปลี่ยนแปลงจะปรากฏให้เห็น การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการใส่ปุ๋ยในรูปแบบที่ไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะฟอสฟอรัสและโพแทสเซียม สามารถส่งผลเสียต่อความอุดมสมบูรณ์ของดินในระยะยาว ข้อมูลจากการศึกษาในนิวซีแลนด์พบว่า การใส่ปุ๋ยฟอสฟอรัสและกำมะถันที่ไม่สม่ำเสมอนำไปสู่ความเสียหายทางเศรษฐกิจสูงถึง 401 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ต่อเฮกตาร์ต่อปี
เกณฑ์ที่สำคัญในการประเมินคุณภาพของปุ๋ย ได้แก่:
การใช้ปุ๋ยเป็นการลงทุนที่สำคัญในการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน ซึ่งในหลายกรณี เกษตรกรทำการทดสอบดินและจัดทำแผนคุณค่าทางโภชนาการอย่างละเอียด แต่การเลือกปุ๋ยคุณภาพดีและการใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอก็มีความสำคัญเช่นกัน ทำให้มั่นใจได้ว่าปุ๋ยจะถูกใช้ได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้พืชเจริญเติบโตแข็งแรงและให้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง
ดังนั้น เมื่อเลือกซื้อปุ๋ย ควรพิจารณาคุณภาพด้านความสม่ำเสมอ ความหนาแน่น ขนาด รูปร่าง และความแข็งของอนุภาคปุ๋ย เพื่อรับประกันว่าแท้จริงแล้วปุ๋ยจะถูกใช้อย่างทั่วถึง ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและช่วยเสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ของดินและผลผลิตของพืช